Welcome

ยินดีต้อนรับสู่ Knowledge Management Systems Blog

วิธีการตรวจสอบ Anti virus ในเครื่องของคุณว่าดีแค่ไหน ?

1. เปิดโปรแกรม notpage
2. Copy โค้ดด้านล่างไปใส่ใน Notepad ขึ้นมา
X5O!P%@AP[4\PZX54(P^)7CC)7}$EICAR-STANDARD-ANTIVIRUS-TEST-FILE!$H+H*
3. Save เป็นชื่อ virus.com
4. แล้วลองรันดู

หรือว่าอีกวิธีการหนึ่งก็คือ การ Copy code เหล่านั้นมาไว้ใส่ใน Notepage แล้วทำการ Save ตามปกติ
ก็สามารถทดสอบได้เช่นกัน

ถ้าเกิดว่า anti virus ตัวนั้นดีจริงก็จะมีการส่งสัญญานเตือนเราหรือลบทิ้งไปโดยอัตโนมัติแต่ถ้าตัวไหน
ที่ขนาด scan แล้วก็ยังไม่เจออันนี้ก็ต้องพิจารณากันหน่อย ว่าควรจะติดตั้งไปดีหรือเปล่าและข้อเท็จจริงอีก
หนึ่งข้อก็คือ virus ตัวนี้เป็น virus test ไม่มีอันตรายต่อระบบ computerใดๆทั้งสิ้นสบายใจในจุดนี้ได้

ที่มา: http://www.viruscom2.com/tip-computer/test-antivirus.html

เทคนิคเทพทะลุเว็บ Block คลิก (click) ขวา

หลายๆคนคงเคยเจอเว็บประเภท Block การคลิกขวามาบ้างไม่มากก็น้อยและบางเว็บก็อาจจะพ่วงไปถึงการป้อง
กันการ save file ลงเครื่องไปด้วยซึ่งเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องที่ธรรมดามากเพราะว่าเว็บเหล่านี้อาจมี
ทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆที่ไม่อยากให้เผยแพร่ออกไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตเขาจึงป้องกันขึ้นมาแต่ว่าถ้าเกิด
เราสังเกตดูดีๆก็จะรู้ได้ทันทีว่า web เหล่านี้ใช้ JavaScript ในการ block เราและเราก็จะเริ่มต้นจากในจุดนี้

1.สมมุติไปเจอเว็บประเภทนี้เข้าให้ (block click ขวา)

web block








2. เข้าไปที่ Tools > Internet option






3. เข้าไปที่ Tab Security แล้วเลือกที่ custon level...

Internet Option








4. จะปรากฏหน้าต่างนี้ขี้นมาหาตรงที่ Scripting Java applets เลือกตรงที่ disable และเลือกตรง
ที่ Active script ให้กลายเป็น disable เช่นกัน

Script








5. ผลลัพท์ที่ออกมา

Ok block script








เหตุผลที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า ทางเว็บใช้ JavaScript ในการ block การ click ขวาของเรา และเมื่อเรา
ไม่ยอมให้มีการ run JavaScriptบนเครื่องของเราทางเว็บก็ป้องกันอะไรเราไม่ได้เพราะนี้จึงเป็นเหตุให้เราทะลุำการ
block click ขวาได้อย่างง่ายดาย


ที่มา: http://www.viruscom2.com/tip-computer/blockclick.html

การลง Windows XP Professional & การฟอแมท ลงวินโดว์ xp

การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP โดยปกติ จะสามารถทำได้ 2 แบบคือ การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม หรือทำการติดตั้งใหม่เลยทั้งหมด สำหรับตัวอย่างในที่นี้ จะขอแนะนำวิธีการ ขั้นตอนการติดตั้ง Windows XP แบบลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งความเห็นส่วนตัว น่าจะมีปัญหาในการใช้งานน้อยกว่าแบบอัพเกรดครับ

วิธีการติดตั้ง Windows XP ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบดังนี้
1. ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม โดยใส่แผ่น CD และเลือกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย
2. ติดตั้งโดยการบูตเครื่องใหม่จาก CD ของ Windows XP Setup และทำการติดตั้ง
3. ติดตั้งจากฮาร์ดดิสก์ โดยทำการ copy ไฟล์ทั้งหมดจาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ก่อนทำการติดตั้ง

เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ในขั้นตอนการติดตั้งระบบ Windows XP ตรงนี้ จะขอแสดงตัวอย่างการติดตั้ง โดยการบูตจากแผ่น CD ของ Windows XP Setup ครับ โดยก่อนที่จะทำการติดตั้ง ก็ให้ทำการสำรองข้อมูลต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อย

ในการแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ แนะนำให้ทำการวางแผนประมาณขนาดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าด้วย โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะใช้พื้นที่ต่ำกว่า 3G. และเนื่องจากระบบ Windows XP สามารถที่จะสร้างเมนู Multi Boot ได้หลังจากที่ติดตั้งไปแล้ว โดยยังสามารถเลือกเมนูว่า จะเรียก Windows ตัวเดิมหรือจะเรียก Windows XP ก็ได้ ดังนั้น หลาย ๆ ท่านมักจะแบ่งพื้นที่ไว้ลง Windows 98 ที่ Drive C: ประมาณ 5G. และเผื่อไว้สำหรับ Windows XP ที่ Drive D: อีกประมาณ 5G. ที่เหลือก็จะเป็น Drive E: สำหรับเก็บข้อมูลอื่น ๆ ทั่วไป แต่ถ้าหากลง Windows เพียงแค่ตัวเดียว ก็ไม่จำเป็นครับ

การตั้งค่าใน BIOS ก่อนทำการติดตั้ง Windows XP ใหม่จะต้องทำการ Disable Virus Protection ใน BIOS ซะก่อน เพราะว่าเมนบอร์ดบางรุ่นจะมีการป้องกัน Virus โดยการป้องกันการเขียนทับในส่วนของ Boot Area ของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเท่าที่เคยเห็นมา เครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกตั้งค่านี้อยู่แล้ว ถ้าหากเครื่องของใครไม่มีก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเมนบอร์ด บางรุ่นอาจจะไม่มีก็ได้ วิธีการก็คือ

  • เริ่มจากการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ขณะที่เครื่องกำลังทำ Memory Test หรือนับ RAM อยู่นั่นแหละ ด้านล่างซ้ายมือจะมีคำว่า Press DEL to enter SETUP ให้กดปุ่ม DEL บน Keyboard เพื่อเข้าสู่เมนูของ Bios Setup (แล้วแต่เมนบอร์ด ด้วยบางทีอาจจะใช้ปุ่มอื่น ๆ สำหรับการเข้า Bios Setup ก็ได้ลองดูให้ดี ๆ) จากนี้ก็แล้วแต่ว่าเครื่องของใคร จะขึ้นเมนูอย่างไร คงจะไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จากนั้นให้มองหาเมนู Bios Features Setup ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่สอง ใช้ปุ่มลูกศรเลื่อนแถบลงมาแล้วกด ENTER ถ้าใช่จะมีเมนูของ Virus Warning หรือ Virus Protection อะไรทำนองนี้ ถ้าหากเป็น Enable อยู่ละก็ให้เปลี่ยนเป็น Disable โดยเลื่อนแถบแสงไปที่เมนูที่เราต้องการใช้ปุ่ม PageUp หรือ PageDown สำหรับเปลี่ยนค่าให้เป็น Disable
  • กดปุ่ม ESC เพื่อกลับไปเมนูหลักของ Bios Setup มองหาเมนูของ SAVE TO CMOS AND EXIT หรืออะไรทำนองนี้เลื่อนแถบแสงไปเลยแล้วกด ENTER ถ้าหากเครื่องถามว่าจะ Save หรือไม่ก็ตอบ Y ได้เลย หลังจากนี้เครื่องจะทำการ Reboot ใหม่อีกครั้ง ใส่แผ่น Startup Disk ที่เราทำไว้ตามขั้นตอนแรกรอไว้ก่อนเลย

มาดูขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้น การติดตั้ง Windows XP กันเลยครับ

เริ่มต้น โดยการเซ็ตให้บูตเครื่องจาก CD-Rom Drive ก่อน โดยการเข้าไปปรับตั้งค่าใน bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเลือกลำดับการบูต ให้เลือก CD-Rom Drive เป็นตัวแรกครับ (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร)










ทำการปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่องมา จะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดีครับ ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน










โปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอถัดไปครับ










เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป










หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำการติดตั้งต่อไป










ทำการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป










เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้เป็น FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้เลือก FAT32 นะครับ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป










โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่ครับ










หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำการ Restart เครื่องใหม่อีกครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลยครับ)











หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ Windows XP แล้วครับ รอสักครู่












โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ ครับ











จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้กดปุ่ม Next ไปเลยครับ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้











ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป











ทำการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี) แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป











หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป











เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป











รอครับ รอ รอ รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้งานจริง ๆ










บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการเลือกว่า เราจะบูตจากระบบ Windows ตัวเก่าหรือจาก Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ











เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วครับ












ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยครับ นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้เราทำการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ฃื่อก่อนเข้าใช้งาน ก็ใส่ชื่อของคุณเข้าไปได้เลย











เสร็จแล้วครับ หน้าตาของการเข้า Windows XP สวยดีครับ












และนี่คือหน้าตาแรก ของระบบปฏิบัติการ Windows XP Professional ครับ ต่อไปก็เป็นการปรับแต่ง และการลง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยต่อไป

ผมฟอแมทคอมครั้งแรกเป็นก็เพราะบทความนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้คอมพิวเตอร์มาอีกหลายปีเลยขอเอามาลงไว้ เผื่อใครผ่านไปผ่านมาอ่านจะได้เป็นประโยชน์กับผู้เริ่มต้นครับ

ที่มา: http://www.com-th.net/windowsxp/?xpsetup

อยากประกอบเครื่องเอง ลองดูครับ วิธีประกอบคอม

มีหลายๆท่าน ได้รับสเปกที่หลายๆท่านจัดมาให้ ก็เอาไปซื้อมาให้ร้านประกอบ ซึ่งหลายท่าน ประสบปัญหาที่ว่า ของในรายการเวลาไปซื้อจริงๆ ต้องซื้อจากหลายๆที่หลายร้าน บางร้านก็ประกอบให้แต่เครื่องที่ซื้อของจากทางร้านทั้งหมด เจ้าอื่นปนมาไม่ต่อให้ หรือคิดตังเพิ่ม และหลายๆท่าน กลัวว่า ประกอบแล้วไม่ทำงาน เปิดไม่ติด ของที่ซื้อมาจะพัง ฯลฯ จนเกิดความกลัว ไม่กล้าประกอบเอง ทั้งๆที่ใจมันอยากทำ วันนี้ ผมรื้อเครื่องบัญชีที่ร้านพอดีครับ เลยเอากล้องมาถ่ายเป็นช็อตๆมาให้หลายๆท่าน ศึกษาการประกอบเครื่อง ด้วยตนเอง

ข้อดีของการต่อ/ประกอบเครื่องเอง คือ
-เป็นการสะสมประสบการณ์ด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ไปในตัว
-เราจะรู้เบื้องลึกของเครื่องคอม ที่เราจะต้องใช้มันไปอีกหลายปี
-การแก้ปัญหาในเครื่องตัวเอง จะทำได้ง่าย เพราะเราเคยประกอบมาแล้ว ถึงจะลืมวิธี แล้วมาถามท่านอื่นๆ(คนรู้จัก หรือในบอร์ดนี้)ท่านก็จะทำมันได้ง่ายขึ้น เพราะอย่างน้อยก็คุ้นๆละนะ ว่าเคยทำไง
-พอเราจะอัพเกรด ก็เหมือนข้อบน เคยทำแล้ว ก็ง่ายขึ้น
-ชิ้นส่วนเราซื้อมาทุกอัน มั่นใจได้เลยว่า สเปกตรงตามที่เราซื้อมา เพราะประกอบเอง ไม่ต้องกลัวร้านแอบเปลี่ยน ยกเว้นร้านที่ซื้อเอามาผิดหรือตั้งใจเอามาผิดนะครับ อิอิ
-เวลาเราทำเสร็จแล้ว และเปิด เข้าไบออสได้ ทุกอย่างทำงาน มันมีความรู้สึกแบบ โอ้จ๊อด มันยอดมาก มันจะให้ความรู้สึกภูมิใจสุดๆ(ผม...จำการประกอบเครื่องคอมเครื่องแรกของผม ได้ดี)

ข้อเสีย ก็มีนะ คือ
-บางครั้ง การประกอบไม่ดีพอ สายไฟรกรุงรัง อุปกรณ์บางตัวใส่ไม่แน่น
-ถ้าเกิดเราประกอบ แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น เช่น บอร์ดหล่น ฮาร์ดดิกส์หล่น เรารับเต็มๆ กับความผิดพลาด เช่น อาจจะเปลี่ยนไม่ได้เพราะมีร่องรอยที่เกิดจากความเสียหาย แต่ถ้าไม่มีรอย เนียนอยุ่ ก็รอดไปครับ
-อาจจะเสียบสายไฟ หรืออุปกรณ์ผิด จนเกิดความเสียหาย
-เสียเวลา (แต่ได้ประสบการณ์นะเออ)
-อาจได้รับบาดเจ็บ จากเครื่องมือ หรือวัสดุเครื่องมือมีคม

เอาละ คิดไม่ออกแล้ว ว่ามีข้อดี-เสียอะไรบ้าง ฝอยมามากนึกไม่ออก ใครที่อยากจะประกอบเอง ชมต่อครับ

เริ่มแรก!!
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ต้องเอามาประกอบ มีอะไรบ้าง!!





















จากภาพเลยครับ ที่ต้องมี คือ
-เมนบอร์ด(แผงวงจรใหญ่ๆมีสล็อตส้มๆเหลืองๆ)พร้อมฝาหลังเคส ฝาหลังวางอยุ่ตรงหลังพัดลมCPU
-CPU(ชิพสีเงินๆ ใกล้พัดลม)
-พัดลมระบายความร้อนCPU(จะมาพร้อมCPU)
-แรม แผงเขียวๆวางติดกัน 2 อัน ในที่นี้เป็น512*2 บัส533
-ซีดีรอมไดร์ฟ หรือ ดีวีดีไรท์เตอร์ไดร์ฟ (ขวามือ หน้ากากสีดำ ตัวเทาๆ)
-ฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ (วางอยุ่บนดีวีดีไรท์เตอร์ไดร์ฟ)
-สายสัญญาณ SATA ตามจำนวนฮาร์ดดิกส์ ในที่นี้ มี2เส้น เพราะHDDและ DVD-RW drive ใช้สายSATAครับ แต่ถ้าHDDหรือ ไดร์ฟDVDเป็นสายแบบ IDE ก็ต้องสายแบบIDEนะครับ(ยกเว้นใช้ตัวแปลงSATA>>IDE)
-น็อตสกรู น็อตทองที่ใช้ยึดรองเมนบอร์ด แผ่นแหวนรองน็อตสีแดงๆ น็อตนี้ จะได้มาเยอะพอสมควร โดยจะได้มาจากเคส
-อีกอย่าง นอกภาพ คือ เคส-เพาเวอร์ซัพพลาย
!!ถ้าเคสจำพวก Full tower มี่ยี่ห้อ เช่นraidmax หรือ cooler master/Thermaltake ไรพวกนี้ มักจะไม่มีเพาเวอร์มาให้ เพราะออกแบบมาใช้กับคอมระดับ advance ที่ใช้พลังงานสูง โดยเราต้องเลือกซื้อเพาเวอร์มาใช้เอง
!!ถ้าเคสที่ซื้อ มีเพาเวอร์อยุ่แล้ว สามารถซื้อเพาเวอร์มาเปลี่ยนแทนได้ครับ โดยเพาเวอร์เกรดต่ำ(แบบเดียวกับที่แถมเคสระดับไม่ถึงพัน)ประมาณ3-5ร้อย วัตต์ไฟที่จ่ายได้จะไม่เต็ม เช่นของdtech แบบธรรมดา ของP&A และยี่ห้ออื่นๆเช่นFRND และเกรดกลางๆ(แบบเดียวกับที่แถมเคสระดับพันต้นๆถึง2พัน)ประมาณ6-7ร้อยบาท เช่นของdeluxe แบบธรรมดา ของdtechแบบอย่างดี และระดับสูง ราคาพันว่าขึ้นไป ส่วนใหญ่จะ1500-2000+ครับ เช่นEnemax Thermaltake Enchance Silverstone ครับ แบบหลังเหมาะกับ system ที่ต้องการความสเถียร หรืออุปกรณ์เยอะๆเช่น HDD-กาณืดจอหลายตัว


ต่อมา มาดูเครื่องมือที่ใช้กันบ้าง จากภาพเลยครับ

-ไขควงหัวแฉก คือ อันด้ามแดงครับ (ต้องมี!)
-ไขควงแบน คือ อันด้ามเขียว (มีก็ได้!)
-ชุดไขควงเล็ก 5 ตัว (ไม่/ไม่มีก็ได้)
-คีมปากจิ้งจก อันสีส้มๆ (ต้องมี)
-คีมตัด อันสีน้ำเงินครับ (ไม่จำเป็น แต่ถ้ามีการใช้เข็มขัดรัดสายจะดีกว่ากรรไกร-คัตเตอร์ตัด)
-เข็มขัดรัดสาย ห่อขาวๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อมาเยอะขนาดนี้ครับ หาซื้อจากร้านอิเล็กได้ทั่วไป เค้ามีแบ่งขาย
-ซิลิโคน อันนี้แบบธรรมดา หรือจะใช้แบบดีๆก็จะแพงขึ้น เช่นMX-1 Arctic silver ครับ ถ้าไม่OC แบบธรรมดาก็ok แล้วครับ
-บัตรเติมเงิน(พลาสติก)นะครับ บัตรพลาสติก ที่เติมเงินเกมส์ออนไลน์ หรือโทรศัพท์ก็ได้ หรือพวกบัตรเครดิตที่ใช้ไม่ได้แล้ว เอามาปาดซิลิโคนให้บางเป็นหน้าเดียวกัน!
-คัตเตอร์(ไม่ได้มีความจำเป็น เหมาะกับใช้เวลาตัดกรีดห่ออุปกรณ์คอมที่เราแกะกล่องมา)

เริ่มประกอบกันดีกว่า
ยกเคสมาครับ
-เปิดฝาเคส ออกทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้ง่ายต่อการประกอบ
tip*ถ้าเคสเป็นน็อตหัวมือหมุน จะง่ายมากครับ



















-ต่อมา ตรงแถวหลังเคส จะมีฝาหลัง ติดมาอยุ่แล้วนะครับ ให้เรา เอาออกไป โดยอาจจะเป็นน็อตยึดอยุ่ หรือเป็นแบบที่ เราต้องงอไปงอมาให้มันขาดเอง แล้วแต่เคสครับ
-เรียบร้อยแล้ว ให้ท่านนำ ฝาหลัง ที่มากับเมนบอร์ด มาติดตั้งครับ โดยเกือบทุกรุ่น-ยี่ห้อ ท่านจะต้องดันจากด้านในครับ ใส่ให้ถูกหัวนะครับ ปกติ รูที่เหมือนช่องเสียบลำโพง จะอยู่ช่วงล่างและช่องเสียบเมาส์จะอยู่บนใกล้เพาเวอร์(เคสที่มีเพาเวอร์ด้าน บนตามมาตราฐาน)



















ต่อมา ให้ท่านลองเอาเมนบอร์ด มาวางดู รูน็อตบนเคสครับ แล้วใส่ตัวน็อตยึดเมนบอร์ดลงไป (ท่านอาจจะไม่ใส่ครบ แต่ใส่อย่างน้อย 4 มุม)



















ต่อมา
มาใส่CPUกันครับ โดยการใส่ที่สะดวก คือใส่ซีพียูก่อนลงเคสครับ CPUจะมีสล็อตเฉพาะตัว เอามาใส่กันไม่ได้ เช่น754ใส่939ไม่ได้ AM2ใส่775ไม่ได้
อันนี้ ของAMD socket AM2 /754-939ก็เหมือนกันนะครับ
-เริ่มจาก เอาก้านล็อคขึ้นก่อน
-ใส่ซีพียูลงไปครับ โดยให้ด้าน ลูกศรสีทอง ตรงกับสัญลักษณ์ลูกศรบนsocketครับ
!!อย่าพยายาม กดCPUลงไป เพราะขาจะบิ่นงอครับ และอาจหักได้(หมดประกันนะเออ!)ให้ค่อยๆใส่ลงไปครับ ถ้ากดไม่ลง ลองหันด้านอื่นดู ถ้าใส่ถูกต้อง CPUจะลงไปสุดทุกด้าน และจะไม่ต้องออกแรงมากมายกดCPUลง ดังรูป



















-ต่อมา ใส่ซิลิโคนครับ แต่ๆ ถ้าท่านซื้อCPUมาใหม่เอี่ยม ที่ฮีทซิงค์พัดลม จะมีติดมาแล้ว(สีเทาๆ)แต่ถ้าจะใช้ซิลิโคนดีๆ ก็ขูดของที่แถมมาและเช็ดออกให้หมดครับ จากภาพ หยดลงนิดเดียว


-แล้วเอาการ์ดพลาสติก ที่บอกไว้ตอนแรก มาปาดให้ทั่วครับ ถ้าปาดไม่มั่ว ก็เพิ่มทีละนิดครับ
ปาดแล้วจะได้ประมาณนี้



















-ต่อมา ใส่พัดลมCPUลงไป เกี่ยวล็อคด้วยครับ ตามภาพ


-แล้วกด ก้านล็อค มาอีกด้านนึง อาจจะต้องออกแรงนิดนึง พอกดถึงอีกด้านสุดแล้วก็พอครับ


-แล้วมาเสียบสายไฟครับ พัดลมใหม่ๆจะเป็นพัดลมที่ควบคุมด้วยสัญญาณพัลล์(PWM)คือมี 4 เส้น ครับความเร็วรอบจะแปรผันตามงานของCPUและอุณหภูมิ


tip*เพื่อให้ดูเรียบร้อย ท่านสามารถ เหน็บสายไฟตามตัวเก้บประจุต่างๆแถวซ็อกเก็ตได้ครับ ไม่ต้องกลัวร้อนละลายครับ บอร์ดบางตัวเช่นM2N-E จะเก็บได้สวยครับ




















เอาละ มาของIntelบ้างดีกว่า
พัดลมของintelนั้น จะเป็นแบบซิ้งค์กลมไปกับใบพัดลมเลย และใช้ขาล็อคยึดลงแผ่นบอร์ดเลยตรงๆ ซึ่งจะไม่มีขาล็อคที่บอร์ดครับและตัวCPUปัจจุบันของintelเป็นแบบLGA775
(LGA=Land grid array)ซึ่งขาสัมผัสจะอยู่ที่บอร์ดแทน...ระวังอย่าให้มันงอเชียว ดัดยาก หักง่าย

-เริ่มจาก กดสลักลง ดันออกข้าง มันจะดีดขึ้นมาได้(ไม่ต้องกลัวมันดีดไม่เจ็บ) แล้วยกขึ้น ดังภาพ


-แล้วโยกมาสุดเลยครับ เสร็จแล้ว เปิดฝาครอบขึ้นจะได้ดังภาพ



















-เปิดเรียบร้อย!!


-แล้ว วางCPUลงไปให้ลงล็อคครับ จะมีร่องอยู่ที่CPU ถ้าวางถูกต้อง จะลงไปพอดีเลยไม่มีเกยออกมา


-เสร็จแล้ว ปิดครอบลงครับ



















-ต่อมา กดก้านล็อคกับลงมา
!!ถ้าท่านกดก้านล็อค แล้วติดตัวครอบ ให้เช็คดูว่าCPUเกยsocketออกมาหรือไม่ครับ ถ้าCPUใส่ไม่ลงสนิทและท่านฝืนกด CPUและsocketอาจแตกเสียหายได้(หลุดประกันทันที!)





-ใส่เรียบร้อย!!




















-ติดตั้งซิลิโคนครับปาดให้เรียบ
เหมือนการติดตั้งของ AMDเลย อันนี้ผมใส่ที่ตัวพัดลมครับ เพราะพื้นที่ที่ซิลิโคนได้แปะจริงๆก็เป็นวงกลมแค่บนพัดลมนั่นและ...



















-อ้อ ก่อนใส่ ตรวจดูที่ขาพัดลม ปลายลูกศรจะหันออกข้างนอกครับ ไม่หันเข้าซิ้งค์นะครับ



















-สุดท้ายยย ใส่มันลงไป ใช้นิ้วเนี่ยแหละ กดลงไปดัง"กริ้ก" ก็เสร็จแล้ว ตามภาพ...




















ต่อมา มาเริ่มกันต่อที่"แรม"
แรมที่ผมนำมาใช้นี้ เป็นแบบ DDR2 (DDR=Double-Data-Rate Synchronous Dynamic Random) เป็นบัส 533 แต่ปัจจุบันต้อง 667นะครับอย่างต่ำ อันนี้คอว่ามันใกล้มือดี เอามาเป็นนายแบบก่อน ผมแนะนำว่า ใส่ยอกเคสดีกว่าครับ




















-การใส่แรม ทั้งSD-DDR-DDR2-DDR3 ต้องหันให้ถูกด้านด้วยครับ โดยจะมีร่องกันใส่ผิดเอาไว้ มีบางท่าน ใส่ในเคส แต่ทว่า ด้วยความมองไม่เห็น ก็ยัดๆลงไปผิดด้าน ทั้งๆที่ไม่ลง ทำให้เปิดเครื่องแล้วก็มีควันออกมา ทำให้แรมเสียหาย หรือบอร์ดอาจตามด้วย
การใส่ดูจากภาพเลยครับ
ถูก



















ผิด




















-ถ้าติดตั้งถูกด้าน ร่อมบนสล็อตและแรมจะตรงกัน ก็เอามือกดลงไปตรงๆครับ แล้วก้านล็อคข้างๆจะเด้งเข้ามาเอง แต่ให้แน่ใจ ใช้นิ้วกดให้เข้าล็อคหน่อยดีกว่าครับ



















-มีกี่แถว ก็ทำเหมือนๆกันหมด




















ต่อมา มาติดตั้งเมนบอร์ด ที่ประกอบCPU Ramเสร็จแล้ว ลงไปในเคสกัน

อย่างที่เห็นครับ เราเตรียมไว้แล้ววว ทั้งน็อตรองบอร์ด/ฝาหลัง
-นำบอร์ด วางลงไปเลย...


-ตามด้วย ไขน็อตให้เรียบร้อย
!!น็อตรองบอร์ดที่เราใส่ลงไปตอนแรก มี 2 แบบเกลียวนะครับ ถ้าใส่ลงไปแล้วดันลงไปได้แบบไม่ต้องไข หรือ พยายามไขไม่ลง ให้ลองเปลี่ยนน็อตตัวผู้ที่เอามาใช้ดูนะครับ



















!!ถ้าท่านฝืนไขลงไป จะเกิดปัญหาคือ..น็อตจะลงไม่ตรงครับและอาจจะไปกดบอร์ดให้งอจนหักได้ (อันตรายๆ) จะไขน็อตไม่ออก และเมื่อไขแล้ว เกลียวน็อตจะหักคา หรือจะทำให้ตัวรองบอร์ดหมุนดันบอร์ดให้โก่งงอ

-เมื่อไขน็อตเสร็จแล้ว มาเพ่งกันที่คอนเน็กเตอร์ที่มุมล่างของบอร์ด มันคือ front panel connector หรือ จุดเชื่อมต่อปุ่มต่างๆและไฟสถานะ!



















ซึ่งพอร์ทส่วนใหญ่ ที่เราจะต่อไปหน้าเคส มักจะเป็น
-Power LED สถานะสีเขียวหรือฟ้าบอกการทำงานเครื่อง ว่าเปิด /stanby
-HDD LED สถานะสีส้มหรือแดง บอกการอ่านเขียนของฮาร์ดดิกส์/ไดร์ฟต่างๆครับ(แล้วแต่เมนบอร์ด)
-power switch ไม่เสียบไม่ได้!
-reset ใช้รีเครื่อง...
-USB ใช้พอร์ทUSBผ่านหน้าเครื่อง
-eSata มไม่ค่อยมีนักครับ ส่วนใหญ่จะเคสแพงๆ และไม่ค่อยได้ใช้กันด้วย
-audio mic อันนี้หลายคนใช้ครับ





















-งานนี้ ควรใช้คู่มือของเมนบอร์ด ช่วยนะครับ เพราะว่าส่วนมาก บนเมนบอร์ดจะไม่บอกรายละเอียดมานัก เช่นPower LED ไม่บอก+ - เป็นต้น
-บางครั้ง สวิตช์เปิดปิด(Power SW)/รีเซ็ท(Reset SW)บอกขั้ว+ - ในเมนบอร์ด ไม่ต้องสนใจครับ เสียบๆไปเถอะ



















-ถ้าท่านใช้ซาวด์ออนบอร์ด และใช้หูฟัง เสียบลงไปที่เมนบอร์ดด้วยครับ ปกติจะเป็น FP_Audioครับ
Tip*บางครั้ง มีหัวเสียบแบบ HD และแบบAC97มาให้ ดูก่อนครับ ว่าเราใช้ซาวด์แบบไหน แต่ปัจจุบัน ของC-media/realtek จะเป็น HD ครับ แต่ถ้าไม่ใช้คุณสมบัติ HD โดยปิดในไบออสเป็นAC97ก็เสียบAC97นะครับ



















-ในบางกรณี หัวเสียบของเคส ไม่สามารถเสียบลงบนเมนบอร์ดได้แบบปกติ... เช่น หัวไม่ตรงกัน จะทำอย่างไรดี..............ให้ท่านหา เข็มหมุดมา 1 อันครับ นำมายัดเข้าไปตรงล็อคของสายสัญญาณ งัดขึ้น แล้วดึงสายออกครับ อย่างัดมากนะครับ เดี๋ยวจะหักเอา



















-หัวสายที่ถอด...


-สายหน้าเคสเสร็จ มาปวดกัวกับสายUSBกันต่อ!
-การเรียงสาย ตามนี้เลยครับ



















-เมื่อเสียบเรียบร้อยแล้ว...
































ต่อมา ใส่ไดร์ฟต่างๆ เสียบสายสัญญาณและสายไฟกัน
-ใส่HDD และ DVDRwเข้าไป ใส่น็อตให้เรียบร้อยครับ ควรใส่ทั้ง 2 ด้านของไดร์ฟเลย






















-ต่อมา เก็บสายSATA ที่เสียบกับHDDครับ
มี 2 แบบคือ
1 มัดเกรียวกับไขควงหัวแฉก
































2 อ้อมไปหลังหน้าเครื่อง ออกอีกด้านก็ได้



















-ถ้าใช้สายIDE ก็ตั้ง jumper และเสียบสายให้ถูกด้วยครับ
จากภาพ
-ซ้ายสุดที่มีจัมเปอร์อยู่ คือ cable select จะทำงานโดยกำหนดตำแหน่งไดร์ฟตามายที่เราเสียบให้มัน(ไม่แนะนำให้ตั้งเหมือน กัน 2 ตัวถ้าเสียบไดร์ฟ 2 ตัวนั้นบนสายเดียวกัน)
-กลางคือ Slave เป้นตำแหน่งไดร์ฟตัวรอง(Device1)เสียบกับกลางสายIDE
-ขวาสุด คือ Master เป็นตำแหน่งตัวหลักบนสายนั้น(Device0)เสียบปลายสายIDE


-สายIDEอันไหน ตำแหน่งไหน ดูเลย!!


-เสร็จแล้ว ต่อสายเพาเวอร์ลงบอร์ดครับ เมนบอร์ดปัจจุบันนี้ จะเอา 2 ชุดคือ ชุดแรก หัวเพาเวอร์หลัก มี20พิน หรือATX2.0จะมี 24พิณครับ และอีกหัว คือหัว4พิณ เป็นไฟCPUบางบอร์ดมีเป็น8พิณ ไม่ต้องกลัว เสียบไปแค่4ก็"ด้ครับ ถ้าเพาเวอร์มีแค่4 และบอร์ดบางอัน เช่นเมนบอร์ดSLI ที่ใส่การ์ดจอของNvidia มากว่า1ตัว หรือบอร์ดCrossfire ที่ใส่การ์ดจอ ATiมากกว่า1 (บางบอร์ด)จะมีหัวMolex 4พิณ ด้วยครับ เสียบด้วย แตไม่เสียบก็ไม่เป็นไร แต่ตามผู้ผลิตแนะนำ ถ้าใช้การ์ดจอมากกว่า 1 ควรเสียบด้วย


-และก็ต่อสายไฟของ HDD และ DVDRWด้วย รวมถึงสายไฟพัดลมของเคส






-และเก็บสายไฟให้เรียบร้อยครับ (ยังไม่จำเป้นตอนนี้ แต่เมื่อท่านเอาเครื่องไปลองเสียบปลั้ก เปิดได้สมบูรณ์แล้ว ค่อยเก็บก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลามานั่งรื้อถ้ามีปัญหา...)
























และแล้วก็.............ก็.........ก็เสร็จแล้วครับ กับเครื่องที่เรานั่งประกอบกันอย่างสนุกสนาน(รึเปล่า) ต่อไปก็ลองเสียบจอ-เมาส์-คีย์บอร์ด-ลำโพง และเปิดเทสดูครับ





















บทความโดย: คุณZepherous จากเว็บไซต์ www.overclockzone.com